หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

ถิ่ น ที่ ข อ ง หั ว ใ จ


-ถิ่ น ที่ ข อ ง หั ว ใ จ -



ฉันมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า โดยธรรมชาติแล้วหัวใจของเราเป็นสิ่งที่ ละมุนหมายถึงมันต้องการความ ละไมต้องการความเอาใจใส่ที่ไม่ใช่แบบสุกเอาเผากิน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงคิดว่าเราควรใช้ความสุภาพในกิจการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ถึงแม้ฉันจะไม่ใช้ผู้สุภาพชั้นดี แต่คิดว่าตัวเองกับหัวใจก็รู้ไต๋กันมากพอ

>>> ไม่รู้ว่าจะคิดเหมือนกันไหม
 แต่สำหรับฉัน เมื่อนึกถึงอะไรที่ละมุนละไม ในขด
สมองมักปรากฏภาพสิ่งต่าง ๆ ที่มีการปรุงแต่งน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย เป็นต้นว่า >>>

หัวใจเรารู้สึกสงบกับสีเขียวของธรรมชาติมากกว่าแสงไฟตระกาฬตาจากปราสาทราชวัง ทั้ง ๆ ที่อย่างหลังก็กล่าวได้ว่า สวย

หัวใจเรารู้สึกเย็นกับผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าแต่งตามากกว่าผู้หญิงที่ระบายสรรพสิ่งลงบนหน้าชนิดโจตันผู้ให้บริการทุกเฉดสียังต้องมาศึกษา แม้ว่าคนแบบหลังอาจดู ดึงดูดกว่า

หัวใจเรามักจดจำคำพูดซื่อ ๆ ง่าย ๆ ที่ออกมาจากใจของใครสักคนมากกว่าคำพูดคมกริบของนักพูดเจนเวที แม้ว่าคำพูดประเภทหลังจะทำให้บางเซลล์สมองนักคิดของเราปลาบปลื้มจนต้องจดใส่สมุด


และเมื่อหัวใจเราเป็นสิ่งละมุนชวนละไมตามอย่างว่า ที่พำนักของมันจึงไม่ควรเป็นที่ที่เต็มไปด้วยสารพัดสิ่งปรุงแต่ง ลวงตา และอายุสั้น แต่มันควรเป็นสถานที่ที่เย็นรื่น บริสุทธิ์ และเป็นนิรันดร์ ถ้าเราวางหัวใจไว้ที่นั่น มันก็ไม่มีปัญหาหรอกไม่ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางตึกสูง หรือป่าเขา ทั้งหมดในโลกชั่วคราวมันไม่อาจสัมผัสใจที่ถูกวางไว้ยังที่พำนักนิรันดร์แล้ว

۩▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬۩

จงละไมกับสิ่งละมุน สงสารมันบ้างในยามที่เหนื่อยเกินไป และโปรดสุภาพกับทุกกิจการที่เกี่ยวข้อง หัวใจทุกดวงมีบ้านของมัน โปรดปลูกบ้านหลังนั้นอย่างใส่ใจ
--

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น